อุทยานแห่งชาติแม่ยม
อุทยานแห่งชาติแม่ยม
อุทยานแห่งชาติแม่ยม มีพื้นที่ครอบคลุมอยู่ในท้องที่ของอำเภอสอง
จังหวัดแพร่ และอำเภองาว จังหวัดลำปาง มีพื้นที่ทั้งสิ้น 284,218 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 1 มีนาคม 2529 ลักษณะภูมิประเทศเป็นเทือกเขาสูงสองฝั่งแม่น้ำยม
พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นป่าเบญจพรรณ
สถานที่น่าสนใจภายในอุทยานฯ ได้แก่
ดงสักงาม ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 6 กิโลเมตร ต้องใช้การเดินเท้าเท่านั้น
ลักษณะเป็นกลุ่มของดงไม้สักทองที่ขึ้นอยู่อย่างหนาแน่นกว่า 20,000 ไร่ ตามริมฝั่งแม่น้ำยม ในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่ปุง-แม่เป้า
ไม้สักที่ขึ้นอยู่นี้มีขนาดสูงใหญ่ ช่วงเดือนกรกฎาคม-สิงหาคม จะมีดอกสักสีเหลืองอร่ามบานอยู่ทั่วบริเวณดูร่มรื่น
จุดชมวิวเหมืองแร่แบไรต์เก่า อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ
ประมาณ 9 กิโลเมตร
เป็นจุดชมวิวทิวทัศน์ ชมความงามของป่าดงสักงามทางทิศตะวันตก
และสามารถชมได้ทั้งพระอาทิตย์ขึ้นและตก ในฤดูหนาวจะมองเห็นทะเลหมอกจากบริเวณนี้ได้ด้วยบริเวณจุดชมวิวนี้เคยเป็นเหมืองแร่แบไรต์เก่าอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณ 500 เมตร
แก่งเสือเต้น อยู่หน้าที่ทำการอุทยานฯเป็นเกาะแก่งธรรมชาติในแม่น้ำยมมีความยาวประมาณ 2 กิโลเมตร ชื่อของแก่งเสือเต้นนี้มีความเป็นมาจากลักษณะธรรมชาติของหินก้อนหนึ่งในแก่งนี้ ซึ่งมีลักษณะรอยเท้าเสือปรากฏอยู่ บริเวณแก่งเสือเต้นมีหาดทรายอยู่ทั่วไป เหมาะแก่การกางเต็นท์เพื่อสัมผัสธรรมชาติที่งดงาม โดยนักท่องเที่ยวจะต้องนำเต็นท์มาเอง เสียค่าพื้นที่คนละ 50 บาท/คืน
และที่แก่งเสือเต้นนี้มีกิจกรรมที่น่าสนใจได้แก่
การล่องแก่ง จัดในราวเดือนตุลาคม-มกราคม
(นักท่องเที่ยวจะต้องนำอุปกรณ์การล่องแก่งมาเอง)สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์ข่าวอุทยานจังหวัดแพร่
โทร.(054)522097
(https://www.youtube.com/watch?v=T9ZbflaRj7c)
(http://www.clubversysthailand.com/cvt-(travel-activity)/4-5-6-2556)
หล่มด้ง อยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติแม่ปุง-แม่เป้า
ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 10 กิโลเมตร
เป็นแอ่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 120 เมตร อยู่บนยอดเขาสูง มีน้ำตลอดปี เป็นแหล่งน้ำสำหรับสัตว์ป่าในบริเวณนั้น
มีลักษณะที่แปลก คือ ไม่มีต้นกำเนิดของแหล่งน้ำ และน้ำในบึงก็ไม่เคยเพิ่ม หรือลดลง
สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากการสะสมของน้ำฝนหรือน้ำซับและบริเวณใกล้เคียงกันมีดงต้นตะแบก
มีลานสำหรับกางเต็นท์มีจุดชมทิวทัศน์ป่าสักที่งดงาม และชมพระอาทิตย์ขึ้น-ตก
ช่วงฤดูที่เหมาะสมจะมาท่องเที่ยวที่อุทยานแห่งชาติแม่ยม
เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เดือนพฤษภาคม ทั้งนี้เนื่องจากในช่วงฤดูฝน
เป็นช่วงน้ำหลากในแม่น้ำยม และทางคมนาคมไม่สะดวก ทางอุทยานฯ
ได้จัดเตรียมสถานที่กางเต็นท์สำหรับผู้ที่นำเต็นท์ไปเองและมีเรือนแพของเอกชนในแม่น้ำยมไว้บริการ
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ อุทยานแห่งชาติ แม่ยม ตู้ ปณ. 4 อำเภอสอง
จังหวัดแพร่ 54000
เส้นทางสู่หล่มด้ง ขับมากำลังเพลินๆ
จากสะพานข้ามแม่น้ำยม ไม่กี่นาทีเห็นป้ายทางแยกชี้เข้าหล่มด้งให้เลี้ยวขวา
จากสามแยกเข้าไปประมาณ 6 กิโลเมตร
ก็เลี้ยวเข้ามาตามปกติ ไม่นึกว่าเส้นทางมันจะไม่ค่อยปกติ ถนนมี 2 เลน สวนกันได้ ดูจากเส้นสีเหลืองกลางถนน แต่ต้นไม้ใบหญ้า 2 ข้างทางมันรุกล้ำเข้ามาในถนนเยอะมากๆ
เรียกว่าเหลือช่องว่างแค่พอรถวิ่งเข้าไปได้คันเดียว
เสียงใบไม้รูดตามข้างรถเป็นระยะๆ เส้นทางขึ้นเขาไม่สูงมากนักแต่ก็มีทางโค้งใช่เล่นเลยทีเดียว
ขับไปๆ ก็เหมือนเล่นเกม ทางแคบๆ พอดีรถแล้วต้องโค้งให้ทันด้วย จังหวะขึ้นเนินก็ชัน
จังหวะรถลงเขาก็สนุก เรียกว่าต้องหมุนพวงมาลัยให้ทันก็พอ 6 กิโลเมตร ก็ใช้เวลาไม่นานเท่าไหร่ มาถึงหน้าผาสีแดงๆ มีป้ายบอกว่าเป็นจุดชมวิวให้เดินขึ้นผาไป
มีลานจอดรถอยู่ใกล้ๆ หน้าผา
แต่พอดีว่าจะต้องขับเข้าไปที่หล่มด้งก่อนเพื่อบอกเจ้าหน้าที่ว่าเราจะมาค้างแรมบนนี้
เพราะความจริงแล้วมันไม่ใช่ที่ที่นักท่องเที่ยวจะมาค้างมากเท่าไหร่
ปกติลานกางเต็นท์ของอุทยานแห่งชาติแม่ยมอยู่ที่ริมแม่น้ำตรงแก่งเสือเต้น
ที่หล่มด้งมีบ้านพักเจ้าหน้าที่หลังเดียว
ใหญ่พอสมควรเจ้าหน้าที่ประจำอยู่บนนี้ประมาณ 10 นาย เราจะเห็นแค่ 2 นาย
ส่วนที่เหลือออกลาดตระเวนตามแนวป่า เป็นระยะทางหลายสิบกิโลเมตร
เป็นกิจวัตรประจำวันของเจ้าหน้าที่อุทยาน ที่น่าชื่นชมมาก บริเวณที่เราจะกางเต็นท์ ตรงหน้าบ้านเจ้าหน้าที่นี่แหละ มีห้องน้ำ 3 ห้อง
มีลานคอนกรีตกว้างๆ เป็นลานจอดรถ
แต่ปกติแล้วนักท่องเที่ยวน้อยมากนอกเหนือจากการทัศนศึกษาประจำปีของนักเรียน
(ดูจากถนนตรงทางเข้าที่หญ้ามันบุกถนนเข้ามาจนเหลือแค่ช่องว่างให้รถวิ่งก็น่าจะเดาได้ว่า
รถมาถนนสายนี้ไม่เคยได้สวนกันเลย)
คำว่าหล่มด้ง
ก็หมายถึงแอ่งน้ำที่อยู่บนยอดเขา เชื่อว่าเกิดจากการยุบตัวของดิน
แอ่งน้ำบนยอดเขาก็เลยกลายเป็นสิ่งประหลาดที่หาดูยากอีกอย่างหนึ่ง
ในหล่มด้งจะมีไข่ผำ เป็นพืชชนิดหนึ่งมีลักษณะเป็นเม็ดกลมเล็กๆ สีเขียว
หรืออาจจะเรียกกันว่าไข่แหน ไข่ผำมีแทบทุกภาคของประเทศไทย ทางภาคเหนือ เรียกว่า ผำ
ทางภาคกลางเรียกว่า ไข่น้ำ ส่วนภาคอีสานเรียกไข่ผำ
เป็นพืชที่ลอยอยู่บนผิวน้ำเป็นกลุ่มล้วนๆ หรือลอยปนกับแหน จากการศึกษาพบว่า ไข่ผำ
เป็นพืชน้ำ คล้ายตะไคร้น้ำ แต่มีรูปร่างเป็นเม็ดกลมเล็กมาก เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 0.1-0.2 มิลลิเมตร ลอยอยู่เป็นแพเขียว
เกิดในธรรมชาติที่เป็นน้ำใส นิ่ง เช่นหนองน้ำและบึงเป็นต้น ไข่ผำจะพบมากในฤดูฝน
สามารถนำมากินได้ มีวางขายในตลาดตามต่างจังหวัด
ความประหลาดของหล่มด้ง
นอกจากการเป็นแอ่งที่ยุบตัวลงบนยอดเขาแล้ว น้ำในหล่มด้ง ก็ไม่เคยเปลี่ยนระดับเลย
ไม่ว่าจะฤดูฝนหรือฤดูแล้ง หมายความว่า น้ำไม่เพิ่ม ไม่ลดลง
คงระดับเท่าเดิมตลอดทั้งปี
(อ้างอิงจากhttp://www.touronthai.com/%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%AB%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%A2%E0%B8%A1-11000033.html)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น